สารบัญ
ช่องทางลงทะเบียนโครงการรัฐช่วยค่าไฟ
โครงการรัฐช่วยค่าไฟหรือมาตรการรัฐบาลช่วยค่าไฟเป็นโครงการช่วยเหลือสำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งผู้ลงทะเบียนจะได้รับส่วนลดเป็นระยะเวลา 1 ปี จนถึงเดือนกันยายน 2567 สำหรับช่องทางสมัครเข้าร่วมโครงการรัฐช่วยค่าไฟมีหลายช่องทางด้วยกัน เช่น สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เว็บไซต์การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค รวมถึงแอพการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในส่วนขั้นตอนสำหรับลงทะเบียนค่าไฟฟ้าบัตรสวัสดิการให้ท่านนำบัตรประชาชนและบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าร่วมรัฐช่วยค่าไฟได้เลย อย่างไรก็ตาม บุคคลทั่วไปที่ไม่ได้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะไม่สามารถลงทะเบียนลดค่าไฟฟ้า 3 เดือนได้ แต่กระนั้นท่านก็ยังได้รับเงินช่วยเหลือจากโครงการช่วยเหลือของรัฐอื่น ๆ อยู่ เช่น โครงการคนละครึ่ง โครงการเราชนะ หรือโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โดยท่านจะได้รับเงินช่วยเหลือสำหรับการซื้อของกินของใช้รวมถึงส่วนลดเมื่อเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย อนึ่ง ท่านที่สมัครได้ในปี 2024 สามารถเช็คเงินค่าไฟบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เงื่อนไขเข้าร่วมโครงการรัฐช่วยค่าไฟ
รัฐช่วยค่าไฟเป็นโครงการที่ใคร ๆ ต่างอยากลงทะเบียน เพราะจะได้ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือนให้ลดน้อยลงไป แต่รัฐบาลช่วยค่าไฟมีเงื่อนไขอยู่เหมือนกันว่าผู้สมัครต้องเป็นผู้ได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยผู้เข้าร่วมรัฐช่วยค่าไฟจะได้รับส่วนลดช่วยค่าไฟแต่ไม่เกิน 315 บาท นอกจากนี้ หากท่านใดที่ได้รับสิทธิใช้ไฟไม่เกิน 50 หน่วนในเดือนนั้น ๆ ท่านจะไม่ได้รับสิทธิรัฐบาลช่วยค่าไฟ โดยท่านที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถเริ่มลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนถึงเดือนกันยายน 2024 ซึ่งวิธีเข้าร่วมโครงการไม่ได้ยากเลย เพียงแค่เข้าไปที่เว็บไซต์การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคพร้อมกับกรอกข้อมูลสำคัญ เท่านี้ก็รอการอนุมัติผลได้เลย สำหรับท่านที่มีคำถามว่าเงินค่าไฟบัตรสวัสดิการเข้าวันไหน หรืออยากทราบวันเช็คเงินค่าไฟฟ้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเข้าเมื่อไหร่ ในการนี้ โครงการรัฐช่วยค่าไฟได้ทยอยโอนเงินให้ผู้ได้รับสิทธิแล้วตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้สิทธิอะไรบ้างนอกจากรัฐช่วยค่าไฟ
ตามจริงแล้วผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่ได้รับสิทธิเพียงแค่รัฐช่วยค่าไฟเป็นระยะเวลา 3 เดือนเท่านั้น แต่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐยังได้รับสิทธิอื่น ๆ จากการสมัครอีกมาก เช่น ทุกวันที่ 1 ท่านจะได้รับเงิน 800 บาทสำหรับซื้อสินค้าในชีวิตประจำวัน ได้ส่วนลดก๊าซหุงต้ม ได้เงินค่าเดินทางไม่ว่าจะเป็นรถบขส. รถไฟ หรือ รถไฟฟ้า นอกจากนี้ ท่านยังได้รับส่วนลดค่าน้ำควบคู่มากับมาตรการรัฐช่วยค่าไฟอีกด้วย ทั้งนี้ ท่านที่ลงทะเบียนยังได้เบี้ยเลี้ยงสำหรับคนพิการอีกด้วยเป็นเงินสด 200 บาทต่อเดือน จะเห็นได้ว่าผู้ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐยังมีเงินช่วยเหลืออื่น ๆ อีกเพียบไม่เพียงแต่รัฐช่วยค่าไฟหรือมาตรการรัฐบาลช่วยค่าไฟเท่านั้น อย่างไรก็ดี ผู้ที่ลงทะเบียนค่าไฟฟ้าบัตรสวัสดิการต้องติดตามข่าวของรัฐบาลว่าจะมีท่าทีอย่างไรต่อไปในปี 2567 นี้ เพราถ้ามองถึงภาคเศรษฐกิจบอกได้เลยว่าต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าเศรษฐกิจจะกลับมาปกติเหมือนช่วงก่อนโควิด ซึ่งเป็นไปได้ว่ารัฐอาจจะยืดระยะเวลาลงทะเบียนลดค่าไฟฟ้า 3 เดือนรวมถึงสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอื่น ๆ ออกไปอีก
หากไม่มีมาตรการรัฐช่วยค่าไฟ จะนำปัญหาอะไรมาสู่ประชาชนบ้าง?
ถ้าเกิดว่าไม่มีมาตรการรัฐช่วยค่าไฟหรือโครงการลงทะเบียนค่าไฟฟ้าบัตรสวัสดิการ เชื่อได้เลยว่าประชาชนรากหญ้าจะลำบากมาก เพราะเดิมทีผู้ที่มีสิทธิลงทะเบียนหรือสมัครเข้าร่วมมาตรการรัฐช่วยค่าไฟ คือผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเท่านั้น ซึ่งคนที่มีบัตรชนิดนี้คือผู้พิการนั่นเอง จะเห็นได้ว่าเดิมทีก็ได้รับความยากลำบากอยู่แล้ว ยิ่งในช่วงเหตุการณ์เลวร้ายแบบนี้ถ้ารัฐไม่ได้สนับสนุนส่วนลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ รวมถึงไม่มีรัฐช่วยค่าไฟ ประชาชนผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐก็คงลำบากแย่ ในทำนองเดียวกันนี้เอง บุคคลทั่วไปที่ทำงานประจำหรือรับจ้างอิสระหากไม่ได้มีเงินช่วยเหลือหรือโครงการช่วยเหลือจากรัฐก็ลำบากเช่นกัน เพราะต้องใช้จ่ายมากขึ้นในขณะที่รายได้ของบางคนกลับลดลง ที่เลวร้าบไปกว่านั้น บางคนอยู่ในช่วงของการตกงานหรือโดนไล่ออกจากงาน ดังนั้น จึงสรุปได้ว่ามาตรการรัฐบาลช่วยค่าไฟและโครงการช่วยเหลือจากรัฐยังคงมีความจำเป็นต่อประชาชนในปี 2567 อยู่
บุคคลทั่วไปไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐลงทะเบียนมาตรการรัฐช่วยค่าไฟไม่ได้
มีหลายคนเข้าใจว่าตนเองสามารถลงทะเบียนมาตรการรัฐช่วยค่าไฟได้ ซึ่งตามจริงแล้วไม่ใช่ทุกคนที่สมัครเข้าร่วมมาตรการรัฐช่วยค่าไฟได้ เพราะโครงการช่วยเหลือรัฐบาลดังกล่าวให้ส่วนลดค่าไฟหรือให้สิทธิลงทะเบียนค่าไฟฟ้าบัตรสวัสดิการเฉพาะผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเท่านั้น อีกทั้งผู้มีบัตรยังต้องเช็คเงินค่าไฟฟ้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐว่าตนเองชำระค่าไฟครบตามที่กำหนดหรือไม่ เพราะถ้าไม่ชำระตามเงื่อนไขของรัฐก็จะไม่ได้รับสิทธิรัฐช่วยค่าไฟเหมือนกัน
สำหรับบุคคลทั่วไปที่ทำงานประจำ ทำอาชีพอิสระ หรือเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัว ท่านจะได้รับการเยียวยาผ่านโครงการช่วยเหลือรัฐบาลประเภทอื่น เช่น โครงการเราชนะ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน โครงการคนละครึ่ง เป็นต้น โดยเฉพาะโครงการคนละครึ่งที่กำลังเข้าสู่เฟส 4 ในปี 2024 ซึ่งมีขั้นตอนและวิธีใช้งานไม่ยาก อย่างไรก็ดี ถือได้ว่าโครงการเยียวยาเหล่านี้ช่วยเหลือประชาชนทั่วไปไม่ต่างจากมาตรการรัฐช่วยค่าไฟเลย อนึ่ง ไม่แน่เหมือนกันว่า หากสถานการณ์โควิดไม่ได้คลี่ลาย และเศรษฐกิจยังไม่ราบรื่น บุคคลทั่วไปอาจได้รับสิทธิลงทะเบียนลดค่าไฟฟ้า 3 เดือนเช่นเดียวกับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐก็เป็นได้