เงินเกษตรกร 2567 มาตรการคู่ขนาน
ไม่กี่วันที่ผ่านมาในปี 2567 ทางรัฐบาลมีประกาศช่วยเหลือเงินเกษตรกรหรืออนุมัติเงินเยียวยาเกษตรกรประกันรายได้ข้าว ที่น่าสนใจในส่วนของเงินช่วยเหลือเกษตรกรดังกล่าวคือมาตรการคู่ขนานที่แบ่งเงินเกษตรกรตามโครงการต่าง ๆ ประกอบไปด้วย โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี สินเชื่อรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่ม และสินเชื่อชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ค้าข้าวในการเก็บสต็อก ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบรายละเอียดแต่ละโครงการพบว่ารัฐเยียวยาเกษตรกรด้วยวงเงินที่แตกต่างกัน
ทั้งนี้ คาดว่าโครงการเงินเกษตรกรมาตรการคู่ขนาน เป็นการเยียวสำหรับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติในปี 2024นี้ อย่างไรก็ดี เกษตรกรทุกคนมีหน้าที่เช็คเงินเกษตรกรพร้อมทั้งเช็คคุณสมบัติตัวเองว่ามีสิทธิ์ที่จะได้เงินเยียวยาเกษตรกรหรือไม่ โดยแต่ละท่านต้องอ่านหลักเกณฑ์เงื่อนไขให้ดี และตรวจสอบให้ดีว่าโอนวันไหน เพื่อป้องกันการตกหล่นเหมือนโครงการเยียวยารัฐอื่น ๆ ในปี 2024 และจะได้ไม่ต้องเสียเวลากับขั้นตอนในการยื่นทบทวนสิทธิ
เช็คเงินเกษตรกรได้ช่องทางไหนบ้าง?
การเช็ควันโอนเงินเกษตรกรหรือเช็คเงินเกษตรกรโครงการเยียวยาเกษตรกรต่าง ๆ สามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งวิธีแรกคือการเช็คสิทธิ์เกษตรกรผ่านทาง LINE BAAC Connect หรือถ้าใครไม่ประสงค์เช็คผ่านทางช่องทางนี้ก็สามารถเข้าไปที่เว็บ https://chongkho.inbaac.com/ หรือ เว็บไซต์ธกส. ก็ได้เช่นเดียวกัน เพียงแค่กรอกเลขบัตรประชาชน หลังจากนั้นระบบจะทำการตรวจสอบและแสดงผลข้อมูลให้เราได้ทราบ
การตรวจสอบเพื่อให้รู้ว่าเราได้เงินเกษตรกรนับว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เพราะจริง ๆ แล้วเกษตรกรมักจะได้เงินเยียวยาเกษตรกรค่อนข้างหลายโครงการ แต่คนส่วนใหญ่กลับไม่รู้หรือเพิกเฉยเพียงเพราะใช้งานระบบเหล่านี้ไม่เป็น อย่างเช่นโครงการเงินเกษตรกรล่าสุดที่รัฐได้ช่วยค่าประกันข้าว เมื่อได้เช็คดูแล้วก็พบว่าเป็นโครงการเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีประกันรายได้ข้าวโพกและมันสำปะหลังเพิ่มเติมอีกด้วย เพราะฉะนั้น ท่านใดที่ยังไม่ได้เช็คสิทธิ์เกษตรกรก็ควรหมั่นเช็คอยู่เนืองๆ เพื่อป้องกันการตกหล่นนั่นเอง
เงินเกษตรกรโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว
โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวประจำปี 2567 นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเงินเกษตรกรที่พึงจะได้รับ ซึ่งวัตถุประสงค์หลักของโครงการเงินเกษตรกรประกันรายได้ข้าวดังกล่าวเป็นการดูแลเยียวยาเกษตรกรที่ปลูกข้าว ทั้งนี้เกษตรกรที่มีสิทธิได้รับเงินเกษตรกรดังกล่าวต้องเป็นเกษตรกรที่ลงทะเบียนปลูกข้าวปี 2567/2567 ในรอบที่ 1 ผ่านทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งตัวอย่างของเงินเยียวยาเกษตรกรดังกล่าว เช่น ประกันข้าวหอมมะลิ 15000 บาท/ตัน หรือ ประกันข้าวเปลือกเหนียว 12000 บาท/ตัน เป็นต้น อย่างไรก็ดี โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเป็นเพียงหนึ่งในเงินเกษตรกรเท่านั้น ตามจริงแล้ว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังมีโครงการช่วยเหลือประกันรายได้อีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น โครงการประกันรายได้เกษตรกรที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ หรือโครงการเยียวยาเกษตรกรประกันรายได้เกษตรกรที่ปลูกมันสำปะหลัง เป็นต้น อนึ่งเกษตรกรแต่ละคนที่อยากได้เงินเกษตรกรประกันรายได้ต้องตรวจสอบหรือไม่ก็เช็คสิทธิ์เกษตรกรที่เว็บไซต์ https://chongkho.inbaac.com/ หรือจะสอบถามไปยังคอลเซ็นเตอร์กับองค์กรหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้เช่นเดียวกัน