สารบัญ
เทียบหมัดต่อหมัด ระหว่างคนละครึ่งกับคนละเสี้ยว อย่างไหนทีเด็ดกว่ากัน
เมื่อเร็ว ๆ นี้หลายคนอาจจะงง ๆ อยู่บ้างเมื่อได้ยินชื่อโครงการรัฐบาลที่เพิ่งมาล่าสุดโดยใช้ชื่อว่าโครงการคนละเสี้ยว แต่รู้หรือไม่ว่าโครงการดังกล่าวเป็นแผนโครงการล่าสุดที่รัฐช่วยจ่ายให้กับประชาชน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เมื่อนำคนละเสี้ยวกับคนละครึ่งมาเทียบกันหมัดต่อหมัดแล้วก็คงต้องบอกว่าโครงการคนละครึ่งอาจจะมีทีเด็ดมากกว่า เนื่องจากรัฐช่วยออกเงิน 50% แต่สำหรับโครงการคนละเสี้ยวในปี 2567 แล้ว รัฐช่วยออกเพียงแค่ 25% เท่านั้น ส่วนที่เหลืออีก 75% เป็นหน้าที่ของประชาชนที่สมัครนั่นเอง หากถามว่าสำหรับปี 2024 นี้ คนละเสี้ยวใครได้บ้าง อาจตอบได้ว่าคนที่ได้รับสิทธิต้องเป็นคนที่มีคุณสมบัติตามเงื่อนไขที่ระบุ เช่น ไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ โดยคนที่สนใจสามารถเช็คสิทธิ์ได้ผ่านเว็บไซต์คนละครึ่งทางออนไลน์ได้ทุกวัน อย่างไรก็ดี แม้ว่าคนละเสี้ยวจะเสียเปรียบคนละครึ่งอยู่บ้างแต่ก็ถือว่าเป็นโครงการช่วยเหลือประชาชนที่เราไม่ควรพลาดเช่นกัน เพราะถึงแม้จะได้รับการช่วยเหลือน้อยก็ยังดีกว่าไม่ได้เลย
ทำความรู้จักโครงการคนละเสี้ยว โครงการล่าสุดที่ปรับเปลี่ยนมาจากโครงการคนละครึ่ง
ถ้าถามว่าในปี 2024 นี้ โครงการไหนคือโครงการล่าสุดจากรัฐบาลที่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นจริงมากที่สุด ก็คงตอบได้ว่าคือโครงการคนละเสี้ยว โดยโครงการคนละเสี้ยวที่ว่านี้ถูกปรับเปลี่ยนเล็กน้อยจากโครงการคนละครึ่ง ซึ่งจากเดิมที่รัฐช่วยจ่ายในอัตรา 50% ประชาชน 50% แต่พอมาเป็นคนละเสี้ยว รัฐได้เปลี่ยนมาเป็นออกแค่ 25% ประชาชน 75% แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ถือได้ว่าโครงการนี้ยังเป็นโครงการแจกเงินที่น่าจับตามองล่าสุด สาเหตุที่ควรจับตามองมาจาก 2 เรื่องหลัก ๆ คือ เรื่องแรก โครงการดังกล่าวยังไม่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาล เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น ซึ่งก็ต้องคอยติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด ส่วนเรื่องที่สองคือหากโครงการคนละเสี้ยวเกิดขึ้นจริงก็จะช่วยให้ประชาชนได้รับการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายไปได้อยู่เหมือนกัน และอาจจะมาแทนคนละครึ่งรอบใหม่ก็เป็นได้
ทำไมโครงการคนละเสี้ยวถึงยังไม่ได้รับการอนุมัติ มาฟังจากปากของรมว.คลัง กัน
เมื่อไม่กี่วันมานี้ รมว. คลัง คุณอาคม เติมพิทยาไพสิฐ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีของโครงการคนละเสี้ยวและคนละครึ่งเฟส 5 ที่ถูกแชร์ต่อ ๆ กันมาอย่างล่าสุดว่าไม่เป็นความจริง โดยแนวโน้มของโครงการแจกเงินดังกล่าวยังไม่ได้รับการพิจารณาอนุมัติจากรัฐบาล ดังนั้น ใครที่มั่นใจแล้วว่าคนละเสี้ยวจะมาแน่ ๆ อาจจะต้องผิดหวัง และต้องเผื่อใจเอาไว้บ้าง แต่ถึงอย่างไรก็ตาม แม้ว่ารมว. จะออกมาให้ข่าวว่าโครงการดังกล่าวยังไม่เกิดขึ้น แต่ถ้าวิเคราะห์สถานการณ์ของประเทศไทยตอนนี้ก็มีแนวโน้มว่าคนละเสี้ยวอาจเกิดขึ้นจริงได้เช่นกัน โดยเฉพาะถ้าหากว่าประชาชนชาวไทยยังถูกเงินเฟ้อและเศรษฐกิจที่ย่ำแย่เล่นงานอยู่แบบนี้ อย่างไรก็ดี หากคนละครึ่งรอบใหม่รวมถึงโครงการคนละเสี้ยวไม่ได้เกิดขึ้นจริง แต่เรายังคงต้องการใช้เงินด่วนอยู่ ก็มีช่องทางที่พอจะช่วยได้นั่นคือเงินกู้ออนไลน์ผ่านแอพหรือการกู้เงินจากธนาคารนั่นเอง
ถ้าเศรษฐกิจกลับมาดีขึ้น เราอาจไม่ได้เห็นโครงการคนละเสี้ยว
ต้องยอมรับเลยว่าปัจจัยที่ทำให้เกิดโครงการคนละเสี้ยวหรือโครงการแจกเงินอื่น ๆ ของรัฐ คือประเทศไทยต้องเศรษฐกิจแย่จริง ๆ เหมือนตอนที่เกิดโควิดใหม่ ๆ ที่ต้องมีการล็อกดาวน์ทั้งประเทศ ส่งผลให้หลายคนได้รับผลกระทบจากการหารายได้มาเลี้ยงชีพ จึงเป็นที่มาของโครงการรัฐบาลที่คอยช่วยเหลือประชาชน เช่น โครงการเราชนะ และโครงการคนละครึ่ง เป็นต้น แต่ในปี 2567 นี้ หากว่าเศรษฐกิจในประเทศไทยดีขึ้นหรือกลับมาสู่ขาขึ้นก็อาจทำให้เราไม่เห็นโครงการคนละเสี้ยวหรือโครงการแจกเงินของรัฐอื่น ๆ และอาจไม่มีการรับสมัครโครงการใด ๆ อีกต่อไปแล้ว แต่ไม่ต้องเสียใจไปหากว่าไม่มีคนละเสี้ยวจริง ๆ เพราะรายได้ที่เกิดจากเศรษฐกิจกลับมาสู่สภาวะปกติย่อมเติมเต็มสภาพคล่องได้ดีกว่าเงินช่วยเหลืออยู่แล้ว ทั้งนี้ แนวโน้มเศรษฐกิจเมืองไทยจะไปต่ออย่างไร แล้วโครงการคนละครึ่งเฟส 5 และโครงการคนละเสี้ยวจะเกิดขึ้นหรือไม่นั้น ก็ต้องคอยติดตามสถานการณ์ดูอย่างใกล้ชิด
ถ้าไม่ได้รับสิทธิคนละเสี้ยว คนไทยควรหาลู่ทางอย่างไรดี
อย่างที่รู้กันดีว่าโครงการคนละเสี้ยวก็ดีหรือคนละครึ่งรอบใหม่อย่างเช่นคนละครึ่งเฟส 5 ก็ดียังไม่ได้เกิดขึ้นจริง และถึงแม้ว่าคนละเสี้ยวจะผ่านร่างอนุมัติจากรัฐบาล แต่ก็มีคนบางส่วนที่ไม่สามารถสมัครรับสิทธิได้ โดยเฉพาะคนที่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คำถามคือแล้วคนไทยที่ไม่ได้รับสิทธิควรหาลู่ทางยังไงดีเมื่อต้องการเงินมากขึ้น คำตอบอาจเป็นไปได้หลายทางแล้วแต่คน แต่สำหรับคำแนะนำจากบทความนี้คือประชาชนควรหาอาชีพเสริม โดยอาจจะเริ่มต้นจากงานที่เราถนัดและมีเวลามากพอหลังจากงานประจำ เช่น งานฟรีแลนซ์ออนไลน์ เป็นต้น
ถึงแม้ว่ารายได้ที่ได้มานั้นจะไม่ได้ฟรีเหมือนกับคนละเสี้ยวและโครงการแจกเงินของรัฐ แต่สิ่งที่เราจะได้เพิ่มมาคือทักษะการหาเงินที่มากขึ้น อีกทั้งได้รับทักษะบริหารเวลาให้เกดคุณค่ามากที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งที่ล้ำค่ามากกว่าเงินเสียอีก ทั้งนี้ ย้อนกลับมาที่โครงการคนละเสี้ยว ถ้าถามว่าหากโครงการนี้เกิดขึ้นจริง รัฐจะช่วยยังไง จากข้อมูลคร่าว ๆ พบว่ารัฐช่วยจ่ายเป็นจำนวน25% ส่วนประชาชนที่สมัครเข้าร่วมโครงการจะต้องออกอีก75% ซึ่งจะเห็นได้ว่าโครงการนี้ถูกปรับเปลี่ยนมากจากโครงการคนละครึ่งที่เราคุ้นเคยนั่นเอง แต่ไม่ว่าจะอย่างไร หากโครงการล่าสุดดังกล่าวเกิดขึ้นจริงก็ต้องถือว่าเป็นกำไรของประชาชนชาวไทยทุกคน