การทวงหนี้คืออะไร กฎหมายทวงหนี้สำคัญอย่างไร 2567
ปัญหาที่ทำให้หลายคนรู้สึกกังวลใจ และไม่สบายใจ ก็คงจะหนี้ไม่พ้นเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ เพราะไม่ว่าจะเป็นเจ้าหนี้ปล่อยกู้ หรือลูกหนี้ หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถูกเอาเปรียบ ก็จะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมาได้ เช่น ลูกหนี้ไม่คืนเงิน และมีการทวงหนี้เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหนี้ระหว่างบุคคล หนี้ธนาคาร หนี้เงินกู้นอกระบบ ซึ่งการทวงหนี้บางครั้งก็สร้างความหวาดกลัวให้กับลูกหนี้ ด้วยเหตุนี้จึงต้องมีกฎหมายทวงหนี้ เพื่อคุ้มครองสิทธิ์และผลประโยชน์ทั้งคนที่เป็นเจ้าหนี้และลูกหนี้ ให้สามารถตกลงกันได้อย่างสันติ และนอกจากนี้กฎหมายทวงหนี้ ยังป้องกันการทวงหนี้ที่ไม่เป็นธรรมให้กับลูกหนี้อีกด้วย
รู้ไว้ไม่เสียบเปรียบ กฎหมายทวงหนี้ฉบับใหม่ สำหรับเจ้าหนี้และลูกหนี้ 2567
กฎหมายทวงหนี้ฉบับใหม่ เป็นกฎหมายที่ช่วยลูกหนี้ให้ได้รับความเป็นธรรม เพราะในบางกรณีมีการติดตามทวงหนี้บ่อยเกินไป การติดตามทวงหนี้โดยใช้ถ้อยคำรุนแรง และการติดตามทวงหนี้แบบที่ทำให้อับอายขายหน้า ทั้งหมดนี้ส่งผลต่อสุขภาพจิตใจของลูกหนี้เป็นอย่างมาก ทำให้ต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยความหวาดกลัว ดังนั้นเพื่อเจ้าหนี้จะไม่ทำผิดกฎหมายในการทวงหนี้ เราเลยจะมาดูด้วยกันว่ากฎหมายทวงหนี้ฉบับใหม่ บอกไว้ว่ายังไงบ้าง
- บริษัททวงหนี้จะต้องจดทะเบียนก่อน และผู้ทวงหนี้ต้องมีหนังสือมอบอำนาจ จากเจ้าหนี้หรือสถาบันการเงิน
- ผู้ทวงหนี้ไม่สามารถทวงหนี้ผ่านบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ลูกหนี้
- สามารถติดต่อกับบุคคลใกล้ชิด เช่น พ่อแม่ พี่น้อง ของลูกหนี้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น
- ทวงหนี้ตามสถานที่ ที่ลูกหนี้แจ้งไว้ในหนังสือสัญญาเงินกู้เท่านั้น
- เจ้าหนี้ห้ามใช้ถ้วยคำข่มขู่รุนแรง การประจาน หรือการทวงถามในที่สาธารณะ
- เจ้าหนี้ไม่สามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ในการทวงหนี้ เว้นแต่มีการระบุไว้ในสัญญาเงินกู้
- เจ้าหน้าที่รัฐบาลไม่สามารถทวงหนี้ได้
- หากโดนทวงหนี้อย่างไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งความทวงหนี้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป
ไม่อยากโดนทวงหนี้ ต้องทำอย่างไร?
ไม่มีใครอยากเป็นหนี้ และเมื่อเป็นหนี้แล้ว ก็คงไม่มีใครอยากโดนทวงหนี้บ่อย ๆ แล้วจะทำยังไงเพื่อจะไม่โดนทวงหนี้? ลูกหนี้หลายคนอาจจะคิดว่ากฎหมายทวงหนี้เป็นกฎหมายที่ออกมาเพื่อคุ้มครองลูกหนี้ แต่รู้หรือไม่ว่า กฎหมายทวงหนี้นั้น จะปกป้องลูกหนี้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม จากการโดนทวงหนี้แบบผิดกฎหมาย แต่ถ้าเราตั้งใจเป็นลูกหนี้ไม่คืนเงิน ก็จะทำให้เราเสียประวัติทางการเงิน และเมื่ออยากจะขอสินเชื่ออีกครั้ง ก็คงจะทำได้ยาก เพราะสถาบันการเงินต่าง ๆ ก็ต้องการลูกหนี้ที่มีประวัติดี ๆ ดังนั้นหากไม่อยากโดนทวงหนี้ และเสียประวัติการเงิน ควรจะชำระหนี้ให้ตรงตามเวลาที่สถาบันการเงิน หรือผู้ปล่อยกู้กำหนด